TRAVEL PLUS
     
ACCUEIL           VISITE THAILANDE           OUTBOUND PACKAGE          PROMOTION            SERVICE          VOYAGES PLUS           PAIEMENT

 

            กรุงเทพฯ – อุดรธานี – เวียงจันทน์ – วังเวียง – หลวงพระบาง  4 วัน 3 คืน
   

กรุงเทพฯ – อุดรธานี – เวียงจันทน์ – วังเวียง – หลวงพระบาง  4 วัน 3 คืน

สายการบินไทย (TG) -  รถปรับอากาศ  -  สายการบินไทย (TG)
กำหนดการเดินทาง 18-21 มิ.ย.  // 4-7 ก.ค. 52
   
วันแรกของการเดินทาง กรุงเทพฯ – อุดรธานี – เวียงจันทน์ – วังเวียง
08.00 น.       คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์เช็คกรุ๊ป การบินไทย (TG)
09.25 น.   นำท่านออกเดินจากกรุงเทพฯ สู่ จ.อุดรธานี ด้วย เที่ยวบินที่ TG1002
10.30 น.     เดินทางถึง สนามบิน จ.อุดรธานี นำท่านเดินทางโดยรถปรับอากาศ สู่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย
ผ่านขั้นตอนพิธีการตรวจคนเข้าออกเมืองเป็นที่เรียบร้อย เดินทางข้ามสะพานสู่ นครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของสปป.ลาว
จากนั้นนำท่านสักการะ วัดพระธาตุหลวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประตูชัย เป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว
เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติลาว มีความหมายต่อจิตใจของประชาชนชาวลาวอย่างใหญ่หลวง แทนถึงความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตย
ของลาว สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะโดดเด่นที่สุดในอาณาจักรล้านช้าง เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมใน
พระพุทธศาสนากับสถาปัตยกรรมของลาวมีลักษณะคล้ายป้อมปราการ การก่อสร้างระเบียงสูงใหญ่ขึ้นโอบล้อมองค์พระธาตุไว้พร้อมกับ
ทำช่องหน้าต่างเล็กๆ เอาไว้โดยตลอด ประตูทางเข้าเป็นบานประตูไม้ใหญ่ลงรักสีแดงรอบๆ องค์พระธาตุยังมีเจดีย์บริวารล้อมอยู่โดยรอบ
นำท่านชม อนุสาวรีย์ประตูชัย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของนครเวียงจันทน์บนถนนล้านช้างจะไปสิ้นสุดที่บริเวณประตูชัยสร้างเสร็จ
ในปี พ.ศ.2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่สละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติพรรคคอมมิวนิสต์
ประตูชัยมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า รันเวย์แนวตั้ง เพราะการก่อสร้างนี้ใช้ปูนซีเมนส์จากประเทศอเมริกาที่ซื้อมาเพื่อสร้างสนามบินใหม่
ในเวียงจันทน์ในระหว่างสงครามอินโดจีนแต่พ่ายเสียก่อนจึงได้นำมาสร้างประตูชัยแทน เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะ
ล้านช้างกับฝรั่งเศสเข้าด้วยกันอย่างงดงาม
กลางวัน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารแม่โขง (เมืองเวียงจันทน์)

บ่าย

นำท่านเข้าชม หอพระแก้ว ตั้งอยู่บนถนนเชษฐาธิราชติดกับทำเนียบประธานประเทศ แต่เดิมเป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ของลาวพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชโปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2108 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่อัญเชิญมาจากล้านนา ปัจจุบันเป็นหอพิพิธภัณฑ์จัดแสดงพระแท่นราชบัลลังก์ปิดทองจารึกพระไตรปิฎกภาษาขอมและกลองสำริดประจำราชวงศ์ของลาว และรวบรวมศิลปะโบราณวัตถุล้ำค่าของลาวไว้ที่นี่ แล้วนำท่านข้ามถนนอีกฝั่งไปชม วัดสีสะเกด ตั้งอยู่บนถนนเชษฐาราช ตรงข้ามกับหอพระแก้ว เจ้าอนุวงศ์ทรงสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2361 เป็นสถาปัตยกรรมแบบของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นเป็นวัดที่เก่าที่สุดในนครเวียงจันทน์ ผนังด้านในของระเบียงที่ล้อมรอบพระอุโบสถไว้มีการเจาะเป็นซุ้มเล็กๆ สำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปเงินและพระพุทธรูปดินเผามากกว่า 2,000 องค์ สำหรับระเบียงด้านตะวันตกเป็นที่เก็บรวบรวมเศษชิ้นส่วนของพระพุทธรูป ด้านหลังของพระอุโบสถมีรางไม้รูปทรงคล้ายพญานาคใช้เป็นรางสำหรับสรงน้ำพระในเทศกาลสงกรานต์ ด้านซ้ายมือเป็นหอไตรสร้างตามแบบอย่างแบบศิลปะพม่า ปัจจุบันวัดนี้ใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชของลาว เดินทางขึ้นเหนือสู่ เมืองวังเวียง (ห่างจากเวียงจันทน์ 156 กม) เมืองวังเวียง เป็นเมืองธรรมชาติสวยสดงดงาม อากาศเย็นสบาย ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำซองล้อมรอบด้วยเทือกเขาสูง มองเห็นสายน้ำกว้างสลับกับเนินทราย โดยมีเทือกเขาหินปูนเป็นฉากหลัง วังเวียงได้ฉายาว่า กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารนางบด หลังอาหารเข้าสู่ที่พัก Thaveesouk Resort  หรือ เทียบเท่า
 
  
 
วันที่สองของการเดินทาง วังเวียง - หลวงพระบาง  (เมืองมรดกโลก)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางสู่เมืองหลวงพระบาง ระยะทาง 210 กิโลเมตร ระหว่างทางท่านจะได้ผ่านหมู่บ้านไม้นานาพันธุ์ ขุนเขาหลายสิบลูก เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม การทำนาขั้นบันได และหมู่บ้านชนเผ่าต่างๆของลาว ผ่านเมือง กาสี พูคูณ และเชียงเงิน เส้นทางสายนี้ถือว่าเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดเส้นทางหนึ่งในเอเชียอาคเนย์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารเทพบุบผา
บ่าย

เดินทางสู่ พระราชวังเก่า (Royal Palace Museum) เป็นวังที่เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ทรงประทับอยู่ที่นี่จนสิ้นพระชนม์ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ.2518 พระราชวังก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็น พิพิธภัณฑ์ประกอบด้วย หอฟังธรรม ห้องรับแขกของเจ้ามหาชีวิตและพระมเหสี ห้องท้องพระโรง ทางด้านหลังก็เป็นพระตำหนักซึ่งมีเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆจัดเก็บไว้เป็นระเบียบเรียบง่าย และนำท่านนมัสการ หอพระบาง ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง เป็นพระพุทธรูปประทับยืน ปรางค์ห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปศิลปะขอมสมัยหลังบายน น้ำหนัก 54 กก. ประกอบด้วยทองคำ 90% และยังมีพระพุทธรูปนาคปรกสลักศิลาศิลปะขอมอีก 4 องค์ประดิษฐานอยู่ เดินทางไปยังหลัง จากนั้นตรงข้ามพระราชวังนำท่านเดินขึ้นบันได 328 ขั้นสู่ พระธาตุภูษี (Phou Si Mountian) สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นดอกจำปา ภูษีนี้ หมายถึง “ภูศรี” คือเป็นศรีของเมืองหลวงพระบางนั่นเอง ตั้งโดดเด่นกลางใจเมืองมีจุดชมวิวก่อนถึงยอดพระธาตุ มองเห็นวัด บ้านเรือน ทอดยาวขนานกับแม่น้ำโขงจรดปากแม่น้ำคาน ยอดสูงสุดของภูษี อยู่บนพื้นที่ราบแคบๆ ตัวพระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร จะสวยมากในยามบ่ายแก่ๆ แบบนี้แสงแดแจะส่ององค์พระธาตุเป็นสีทองสุกปลั่ง มีทางเดินรอบองค์พระธาตุ สามารถชมทิวทัศน์ตัวเมืองหลวงพระบางได้

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารอินโดชัยน่า หลังอาหารให้ท่านเดินเที่ยวชม ถนนข้าวเหนียว ของเมืองหลวงพระบาง หรือ ตลาดมืด ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองเป็นที่ระลึก จากนั้นเข้าสู่ที่พัก New Daraphet Hotel หรือ เทียบเท่าระดับ 3 ดาว
 
วันที่สามของการเดินทาง หลวงพระบาง  (เมืองมรดกโลก)
เช้า ตื่นเช้าซักหน่อยไปร่วม ทำบุญ-ตักบาตร กับชาวหลวงพระบาง ทุกๆเช้าชาวหลวงพระบางทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์
ที่เรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อยๆรูป ซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบางโดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุขและ
ความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง แวะเที่ยว ตลาดเช้า ของหลวงพระบาง
  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก นำท่านลงเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงสู่ ถ้ำติ่ง (Ting Cave) ซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขงมีอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำล่างและถ้ำบน ถ้ำติ่งลุ่มหรือถ้ำล่างสูง 60 เมตรจากพื้นน้ำ มีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวนนับ 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืนมีทั้งปางประทานพรและปางห้ามญาติ ถ้ำติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถ้ำไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่าง สมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา  แล้วล่องเรือกลับ ก่อนถึงตัวเมืองหลวงพระบางแวะ บ้านช่างไห ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขงมีอาชีพในการหมักสาโทและต้มเหล้าขาวจำหน่ายและเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวก ผ้าทอลวดลายสวยงามมากมาย เครื่องเงิน วางจำหน่ายอย่างเป็นระเบียบ ชมความร่วมมือของชาวบ้านที่ได้จัดแต่งลานบ้านอย่างสวยงามเพื่อรอรับนักท่องเที่ยว ได้เวลาพอสมควรลงเรือเดินทางกลับสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารวิชุน
บ่าย นำเดินทางผ่านหมู่บ้านชนบท ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านสู่ น้ำตกตาดกวงชี (Kuang Xi Waterfall) ห่างจากหลวงพระบาง 30 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง ชมความงามของน้ำตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงามแต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น สภาพป่าร่มรื่น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตก จากนั้นนำท่านเดินทางกลับหลวงพระบาง โดยแวะช้อปปิ้งผ้าพื้นเมืองที่ บ้านผานม เป็นหมู่บ้านชาวไทลื้อ มีฝีมือในการทอผ้าอย่างสวยงาม อดีตเป็นแหล่งทอผ้าถวายแด่เจ้ามหาชีวิต ปัจจุบันผ้าทอจากบ้านผานมนี้มีชื่อเสียงมาก และมีการรวมกลุ่มตั้งเป็นศูนย์หัตถกรรมแสดงสินค้า และยังมีการสาธิตให้ท่านชมด้วย นำท่านเที่ยวชม วัดเชียงทอง (Xieng Thong Temple) เป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันทน์ และยังได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์และเจ้าชีวิตศรีสว่างวงศ์วัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของลาว บริเวณที่ตั้งของวัดอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกันกับแม่น้ำโขง มีพระอุโบสถหรือภาษาลาวเรียกว่า “สิม” เป็นหลังไม่ใหญ่โตนัก หลังคาพระอุโบสถแอ่นโค้งและลาดต่ำลงมาก ซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น เป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ส่วนกลางมี ช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อ ซึ่งเป็นที่สังเกตกันว่า เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้างขึ้นจึงมี 17 ขั้น ส่วนสามัญจะสร้างกันแค่ 1-7 ช่อ เชื่อกันว่าจะเก็บของมีค่าไว้ในนั้นด้วย ส่วนหน้าบัน หรือภาษาลาวว่า “โหง่” เป็นรูปเศียรนาค ความงามของวัดอยู่ที่ความสงบสง่าสะอาดมีการวางผังออกแบบและบำรุงรักษาอย่างดี นำท่านเข้าชม วัดวิชุนราช (Visounnarath Temple) สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในปี พ.ศ. 2046 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ มีเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ วัดนี้มีพระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่รูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่ง ทำให้ชาวลาวเรียกกันว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย เจดีย์นี้อาจดูทรุดโทรมมากแม้จะมีการปฏิสังขรณ์มา 2 ครั้งแล้วในปี พ.ศ.2402 ในสมัยพระเจ้าสักกรินทร์ (คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้โปรดให้มีการบูรณะใหม่และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2457 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้ค้นพบโบราณวัตถุมีค่ามากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ ปัจจุบันนำไปเก็บไว้ในหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ในพระราชวังหลวงจนปัจจุบัน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ  ณ ร้านอาหารมีชัยผล เข้าพัก New Daraphet Hotel หรือ เทียบเท่าระดับ 3 ดาว
   
วันที่สี่ของการเดินทาง หลวงพระบาง - เวียงจันทน์ – หนองคาย – อุดรธานี - กรุงเทพฯ
เช้า       รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก หลังอาหารออกเดินทางไปยัง เวียงจันทน์ ตามเส้นทางเดิม (เส้นทางวังเวียง) ในบรรยากาศใหม่
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารนางบด หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่เมืองเวียงจันทน์ ก่อนข้ามด่านกลับประเทศไทย ให้ท่านได้ ช้อปปิ้ง สินค้าปลอดภาษี (Duty Free) เพื่อได้เป็นของฝากก่อนเดินทางกลับเมื่อได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางต่อสูสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว จ.หนองคาย ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน จ.อุดรธานีเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ
20.25 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพโดย เที่ยวบินที่ TG 1015
21.25 น.

เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

   

อัตราค่าบริการต่อท่าน
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2-3 ท่าน ท่านละ 16,900.- บาท
เด็ก อายุต่ำกว่า 12 ปี (มีเตียงเสริม) 15,900.- บาท
เด็ก อายุต่ำกว่า 12 ปี (ไม่มีเตียงเสริม) 14,900.- บาท
พักห้องเดี่ยวเพิ่ม ท่านละ 3,000.- บาท
อัตรานี้รวม :
ค่าตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ-อุดรธานี-กรุงเทพฯ สายการบินไทย (TG)
ค่าที่พักโรงแรม 3 คืน ตามโรงแรมที่ระบุในรายการ หรือเทียบเท่า
ค่ายาพาหนะนำเที่ยวในประเทศลาว ตามเส้นทางที่ระบุไว้ในรายการ
ค่าเรือล่องถ้ำติ่ง
ค่าอาหารทุกมื้อ ตามที่ระบุในรายการ
ค่าใช้จ่ายของมัคคุเทศก์ท้องถิ่น (บรรยายไทย) นำเที่ยวตามรายการ
ค่าอากรท่องเที่ยวลาว
ค่าเที่ยวชมสถานที่ตามที่ระบุในรายการ


อัตรานี้ไม่รวม :
ค่าวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติ (อัตราตามสถานทูตกำหนด)
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าอาหาร-เครื่องดื่ม นอกเหนือจากรายการ, ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีท่องเที่ยว (หากมีการเรียกเก็บ)
ค่าข้าวเหนียวใส่บาตรตอนเข้า


 เอกสารประกอบการเดินทาง 
• หนังสือเดือนที่ที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน (นับจากวันเดินทาง)
• และมีหน้าว่างเหลือมากกว่า 2 หน้า
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคาอันเนื่องมาจากสาเหตุดังต่อไปนี้
• อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงิน
• บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการปฏิเสธออกนอกประเทศ / ห้ามเข้าประเทศลาว / การนำสิ่งของผิดกฎหมาย / เอกสารการ
• เดินทางไม่ถูกต้องและความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย
• การไม่รับประทานอาหารบางมื้อ ไม่เที่ยวตามรายการ ไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้ เพราะเป็นการเหมาจ่ายทั้งหมดทั้งนี้บริษัท จะยึดถือความสำคัญของลูกค้าเป็นหลัก

 
Tell a friend about this page!
Their Name:
Their Email:
Your Name:
Your Email: